1

Button Text! Submit original article and get paid. Find out More

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ทำงาน 1 ปี หนีเข้าป่า

Mr Kittitee  |  at   01:02  |   |  1 comment

ทำงาน1 ปี หนีเข้าป่า

ภาพเมื่อปี 2013

           หลังจากที่เรียนจบมา ผมก็เข้าทำงานกับษริษัทเอกชนในเชียงใหม่ โดยบริษัทส่งตัวผมไปประจำในหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง แถวบ้านผม มันเป็นอะไรที่โชคดีบ่นโชคร้าย ที่ผมต้องทำงานในสภาวะแวดล้อมของหน่วยงานราชการไทย ทำให้ผมได้เห็นอะไรๆจากหน่วยงานราชการ และอีกด้านผมต้องทำงานให้คุ้มกับเงินเดือนที่เขาให้  ซึ่งที่เจ้าของบริษัทเคยบอกไว้ว่า อยากให้เราทำให้อย่างเอกชนในสภาพแวดล้อมรัฐบาล ฟังแล้วงง บริษัทมีนโยบาย ให้ผมต้องมาทำงานก่อน 8.30 น. สายต้องมีเหตุผล และต้องกลับบ้านหลัง 16.30 เท่านั้น พอครั้นถึงวันศุกร์บ่ายๆ ที่ทำงานช่างดูเงียบ
เหงาเหลือเกิน เพราะพนักงานข้าราชการเขากลับบ้านกันหมดแล้ว ผมต้องรอเลิกงานถึงกลับบ้านได้

ภาพทำงานเอกชนและออกมาทำเกษตร

    พอทำงานได้เพียง 2 เดือนบริษัทผมก็เรียกผม กลับไปทำงานในบริษัทแม่ 2 เดือนที่เชียงใหม่ผมก็หอบสังขารไปเชียงใหม่อีกครั้งแล้วนี้ผมต้องทำงาน เยี่ยงกับพนักงานเอกชนทุกอย่างเริ่มจากเข้างาน 9.00 เลิกงาน 17.30 ทำงาน จันทร์-เสาร์ ผมให้ผมรู้เลยว่างานสองงานนี้มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงผมทำงานที่เชียงใหม่ 17.30 น. เลิกงานมารถก็ติด ถึงที่พักก็ ปาไป 18.00 น.ผมปรับสภาพร่างกายไม่ทัน กลับมาที่ไรเป็นงีบทุกที ช่วงนี้ผมเลยคิดได้ว่า ต้องหาอะไรทำเสริมอย่างจริงจังแล้ว หลังจากกลับจากเชียงใหม่มา

เพื่อนๆสมัยทำงานเชียงใหม่ หน้าผมเบื่อโลกมาก ฮ่าๆ
            ผมก็มาทำงานกับหน่วยงานราชการเช่นเดิม ทำให้ผมพอมีเวลาว่าง เลยคิดได้ว่าถ้ามั่วแต่ทำงานกินเงินเดือนผมไม่เจออิสระทางการเงินแน่ ผมเลือกใช้ความรู้ด้านโปรแกรมเมอร์ ที่ติดตัวมาอันเล็กน้อยหากินกับอินเตอร์เนต ผมก็ลองหลายๆด้านทั้ง Amazon,ebay,google adsense,e-commerce, รับจ้างออกแบบเว็บไซค์,

             หลังจากคบสัญญาจ้าง 1 ปีผมตัดสินใจออกงาน เพื่อมาทำธุรกิจ Internet marketing เต็มตัวโดยผมตอนนั้นอายุก็ 25 แล้วเลยบวชให้พ่อแม่ 2 เดือนจากนั้นผมก็นั่งทำงานอยู่ที่บ้าน แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเวลาทำงานอยู่บ้าน แม่ผมมักชินกับภาพเด็กเล่นเกมส์ และการทำงานในห้อง ผมยังไม่มีความรับผิดชอบ ผมยังแอบนอน ดูหนัง พอเวลาผ่านไป 2 เดือนงานแทบไม่เดินเลยยังสู้ตอนทำงานประจำ+ทำงานเสริมไปด้วยเสียอีก แต่ช่วงนั้นผมอ่านหนังสือเยอะมากๆ ดูคลิปยูทูปที่เป็นสาระ จนทำให้ผมการทำเกษตรธรรมชาติ ผมไม่รอช้า เลยเข้าสวนหลังบ้านมีพื้นที่แค่ 1 งานถากหญ้าปลูกผัก บัดนั้นเลยและก็เริ่มศึกษาเกษตรอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดผมก็พบเกษตรที่ผมสนใจมากๆจากคลิป youtobe ชุดนี้




   โจทย์ที่ผมเจอในตอนนั้นคือจะหาพืนที่แบบ อ.ธริศ คำธิศรี (ขออนุญาติเรียกว่า อาจารย์) ที่จริง อ.ธริศ คำธิศรี ชอบให้เรียกพี่ก็เหอะ หลังจากนั้นผมก็เข้าไปเป็นอาสาสมัครมูลธินิ ออยสก้าผมเข้ามาทำเกษตรในพื้นที่ของมูลนิธิโดยที่ผมไม่ได้เงินเดือนจากทางมูลนิธิ และยังต้องลงทุนเองทุกอย่าง ซึ่งผมอยู่กิน นอน ที่นี้เลยทำให้ทางบ้านเป็นห่วงว่า เรียนมาถึงปริญาตรี ทำไมต้องออกมาทำเกษตร ซึ่งผมก็พยายมอธิบายให้คนทางบ้านฟัง และนี้คือสาเหตุที่ผมหันเหชีวิตมาทำเกษตร ด้วยการตอบโจทย์ที่ว่าด้วย
  1. ผมจะลบคำว่าเป็นเกษตรแล้วต้องจน
  2. ทำเกษตรแล้วต้องเหนื่อย 
  3. ทำเกษตรแล้วไม่สามารถไปไหนได้
สุดท้ายอาจไม่เกี่ยว เป็นเกษตรกรแล้วต้องดูต่ำต้อย

// งานทุกงานดีหมด ถ้าผมไม่เจองานหนักผมก็ไม่รู้จักเป็นคนที่อดทน ผมเจอคนมากมาย 1 ปีที่ผมได้คือประสบการณ์ทำงานที่ผมมองยังไงก็คุ้มค่า //

เกี่ยวกับผู้เขียน

"พ่อหนุ่ม เจ้าสำราญ" นามปากกาของผม ผมเติบโตมากับการหาอิสระทางการเงิน จนผมคิดได้ว่าอิสระทางการเงินสำหรับผมไม่ใช่การมีเงินมากๆ แต่การอยู่ดำรงชีวิตโดยพยายามลดค่าของเงินนั้นลง โดยผมเลือกงานเกษตรแบบธรรมชาติเป็นตัวตอบโจทย์ชีวิตให้กับผมนั้นเอง

1 ความคิดเห็น :

  1. เยี่ยมครับ เป็นกำลังใจให้นายไม่นานนายจะรวยทรัพย์ แต่ตอนนี้นายรวยแล้วรวยความสุขในใจของนาย ผมเป็นข้าราชการผมก็กำลังศึกษาวิถีเกษตรอยู่ผมกำลังจะปลูกมะนาวก่อน

    ตอบลบ

General